เทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย Sustainable Goals

  • 5G และ Internet of Things – IoT

เครือข่าย 5G สามารถจัดการกับ Data Traffic จำนวนมหาศาลและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน นอกจากนั้น การโอนย้ายข้อมูลไปยังแอปพลิเคชัน Cloud-Native 5G ยังช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อย CO2 ในเครือข่าย ยกตัวอย่าง การใช้ 5G เป็นองค์ประกอบสำคัญของ Smart City ทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมทรัพยากรต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ลดปริมาณของเสียและปรับใช้การพลังงานของโรงงานและบ้านพักอาศัยได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น

  • Artificial Intelligence –  AI

โมเดล AI สามารถช่วยธุรกิจปรับปรุงการใช้พลังงาน ลดปริมาณของเสีย และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ยกตัวอย่าง โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grids Powered by AI) สามารถบริหารจัดการอุปสงค์และอุปทานของพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาก๊าซเรือนกระจกและต้นทุน เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์และระบบตรวจสอบที่ใช้ AI  (AI-Powered Sensors and Monitoring Systems) สามารถตรวจจับและบรรเทาความเสียหายจากการรั่วไหลของท่อก๊าซและระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ลดความสูญเสียและการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ เป็นต้น

 นอกจากนี้ AI ยังเป็นนวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนอีกด้วย อัลกอริทึมของ Machine Learning – ML สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์อนาคต ทำให้ผู้บริหารมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น เช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์และตรวจสอบช่วยให้เกษตกรสามารถเพิ่มผลผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ยกตัวอย่าง AppHarvest ใช้ AI และ Computer Vision เก็บข้อมูลเกี่ยวกับธัญพืชและปรับสภาพแวดล้อมเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการและรสชาติที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้หุ่นยนต์เก็บเกี่ยวผลผลิตด้วย และ Blue River Technology ใช้ Machine Vision และ AI แยกธัญพืชออกจากวัชพืช ทำให้ใช้ยาฆ่าวัชพืชได้อย่างแม่นยำและลดการใช้แรงงาน เป็นต้น

  • Blockchain

การใช้เทคโนโลยี Blockchain ช่วยให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยและโปร่งใส โดยผู้บริหารสามารถตรวจสอบและยืนยันถึงความพยายามในการดำเนินแผนงานด้าน ESG ในระบบซัพพลายเชนขององค์กรและคู่ค้าให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholder) ได้  

นอกจากนี้ Blockchain ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ตรวจสอบความโปร่งใสของการจัดการ Carbon Credit เพราะทุกธุรกรรมของ Carbon Credit บนเครือข่าย Blockchain สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และข้อมูลถูกจัดเก็บไว้ในบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ ช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง Smart Contract และเครื่องมืออื่น ๆ ของ Blockchain ยังช่วยตรวจสอบ ติดตามและรายงานผลการชดเชยการใช้คาร์บอนฯได้แบบอัตโนมัติ เป็นไปตามมาตรฐานความต้องการของหน่วยงานต่าง ๆ และทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้เร็วขึ้น

ท่ามกลางวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์มากกว่า 3 ทศวรรษ….เรายังโชคดีมีตัวช่วยอย่าง Sustainable Technology ที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนนโยบาย ESG และสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 อย่างไรก็ตามการเลือกใช้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับพื้นฐานขององค์กร ยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับผู้บริหารเพราะการดำเนินนโยบายเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมากและต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ

อ้างอิง : https://bluebik.com/th/insights/7508



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *